โลกออนไลน์แห่แชร์เรื่องราวสุดซึ้ง ของคุณเจี๊ยบ สาวประเภทสองที่พิการตาบอดเพราะติดเชื้อ HIV แต่ยังทำหน้าที่ลูกที่ดีด้วยการเฝ้าดูแลแม่ซึ่งป่วยเป็นอัมพาต อาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
หลังจากที่ทางผู้สื่อข่าวทราบเรื่อง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ บ้านเลขที่ 40 หมู่ 9 ตำบลบางโทรัด อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร พบสาวประเภทสองตาบอดทั้งสอง ใช้มือคลำทางเพื่อไปหาแม่ที่นอนป่วยเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง ทราบชื่อคือ นาย บุญสม (หรือเจี๊ยบ) ปิ่นสุวรรณ อายุ 55 ปี ส่วนแม่ผู้ให้กำเนิด ชื่อ นางปิว ปิ่นสุวรรณ อายุ 86 ปี ภายในบ้านสะอาดสะอ้านอย่างน่าเหลือเชื่อ ไม่เหมือนบ้านของคนพิการตาบอดเลยแม้แต่น้อย ทำเอาทีมงานอึ้งไปตาม ๆ กัน
คุณเจี๊ยบเล่าว่า ตนเองมีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คน ตนเองเป็นคนที่ 5 บิดาเสียชีวิตตั้งแต่ตนเองอายุ 10 ปี ตอนเด็กๆ เริ่มรู้ว่าตนเองชอบเต้นชอบแสดง รักสวยรักงาม จนยอมรับและเปิดเผยว่าตนเองนั้นคือสาวประเภทสอง เริ่มหางานทำเป็นหางเครื่องเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และได้รับการสนับสนุนส่งประกวดยังเวทีต่างๆ เรื่อยมา จนผันตัวไปแสดงโชว์คาบาเร่ต์ และส่งเงินมาให้แม่ตลอด
จากนั้นไม่นานแม่ก็ล้มจนเป็นอัมพาต พี่น้องก็แยกย้ายกันไปไม่ติดต่อกลับมา ตนยังคงเทียวไปเทียวมาทั้งทำงานและดูแลแม่ แต่หลังจากนั้น ตนติดเชื้อ HIV จนทำให้ตาทั้งสองข้างบอดสนิทเมื่อปี 2550 ต้องกลับมาใช้ชีวิตอย่างยากลำบากที่บ้าน แต่ยึดมั่นเสมอว่าจะไม่ทิ้งแม่
ภารกิจประจำวัน เริ่มตั้งแต่ตี 4 จะดูแลเช็ดเนื้อเช็ดตัว เปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนน้ำ-ข้าวให้แม่ กอดหอมแม่ทุก ๆ วัน โดยเชื่อว่าตาที่ไม่สามารถมองเห็นแม่ สามารถทดแทนได้โดยการสัมผัส และคิดว่าแม่นั้นก็รับรู้ได้เช่นกัน ทุกครั้งที่หอมแม่จะส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ ตอบรับ
สิ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง คือสภาพในบ้านเหมือนไม่ใช่บ้านที่คนตาบอดอาศัยอยู่ เพราะทุกจุดทุกมุมสะอาด มีสุขอนามัยดี ข้าวของจัดเป็นระเบียบ เพราะคุณเจี๊ยบจะใช้มือคลำปัดกวาดเช็ดถูตลอด จดจำทุกอย่างได้แม่นยำว่าเอาสิ่งใดเก็บไว้ตรงไหน
ปัจจุบัน คุณเจี๊ยบและแม่ยังชีพด้วยเงินผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท เงินช่วยเหลือผู้พิการอีกเดือนละ 800 บาท และเงินช่วยเหลือผู้ป่วย HIV เดือนละ 500 บาท อีกทั้งยังได้รับความสะดวกเมื่อแม่เจ็บป่วยฉุกเฉิน เวลาโทรขอความช่วยเหลือทางเจ้าหน้าที่ก็จะมาดูแล ส่วนคุณเจี๊ยบนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะรับยามาให้ทุกๆ เดือน แต่คุณเจี๊ยบยังคงเป็นห่วงแม่ จึงอยากวอนให้ทุกหน่วยงาน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดูแลกันอย่างต่อเนื่อง กลัวสักวันที่ตนหมดเรี่ยวแรงแล้วใครจะดูแลแม่
ที่มา http://www.siamupdate.com
