เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 4 ธันวาคม ร.ต.อ.พัลลภ วิลาลักษณ์ ร้อยเวร สภ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่หมู่ที่ 5 บ้านบุ่ง ต.เจ้าวัด อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ที่ 5 บ้านบุ่ง ต.เจ้าวัด อ.หนองฉาง จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บ้านไร่ กู้ภัยร่วมใจอุทัยธานี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบศพนายจอน สุขยืน อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านในสภาพศพนอนหงายปลายเท้ากอดด้ามปืนลูกซองยาว ปากกระบอกปืนจออยู่ที่ปลายคางในสภาพบาดแผลที่ศีรษะผู้ตายกระสุนปืนฝังในกะโหลกไม่ทะลุ มีเลือดไหลนองเต็มพื้นห้อง ตรวจสอบภายให้องของผู้ตายไม่พบรองลอยการต่อสู้ พบลูกปืนลูกซองขนาด 9 ว่างอยู่ในกล่องพลาสติกใกล้ตัวผู้ตายจำนวน 4 ลูก และว่างอยู่บนล้อรถอีกจำนวน 2 ลูก ลูกปืนที่ใช้แล้วอีกหนึ่ง 1ลูก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายอุทร สุขยืน อายุ 56 ปี พี่ชายของผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายนั้นได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุเพียงคนเดียว โดยมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านั้นผู้ตายได้ไปนั่งคุยกับตนเองที่บ้าน แล้วบ่นว่า ผู้ตายไปผู้ค้ำประกันรถจักรยานยนต์ให้กับเพื่อนบ้านรายหนึ่งในหมู่บ้านวงเงินเกือบ 5 หมื่นบาท หลังจากนั้นเพื่อนไม่ส่งงวดรถจักรยานยนต์ ทำให้ไฟแนนซ์มีหนังสื่อมาทวงหนี้กับผู้ตายหลายครั้งจนผู้ตายเกิดอาการกลัว และคิดมาก
นายอุทรกล่าวว่า จนวันที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้นำเงินที่รับจ้างมีอยู่จำนวน 8 พันบาทไปจ่ายให้กับไฟแนนซ์รถจักรยานยนต์ก่อน หลังจากนั้นผู้ตายกลับมาก็มาบอกตนเอง หลังจากนั้นผู้ตายกลับบ้าน ซึ่งในช่วงนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน เนื่องจากออกไปทำไร่กันหมด จนช่วงเย็นนางบุญยืน สุขเย็น ซึ่งเป็นน้องสาวมาตามผู้ตายไปกินข้าวเย็นตามปกติ พอเดินไปที่ประตูเห็นผู้ตายนอนอยู่ จึงชะโงกไปดู เห็นศีรษะผู้ตายนอนจมกองเลือด จึงวิ่งมามาบอกญาติ ๆ ให้ไปดูดังกล่าว ซึ่งตนไม่ติดใจในการเสียชีวิต เนื่องจากผู้ตายได้ไปบ่นกับตนเองที่ไปค้ำประกันรถจักรยานยนต์ให้เพื่อน จนไฟแนนซ์ ติดตามทวงหนี้ ทำให้เกิดอาการเครียด แล้วใช้อาวุธปืนยิงกรองปากตัวเองเสียชีวิตดังกล่าว
ร.ต.อ.พัลลภกล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องตน ผู้ตายนั้นได้เกิดอาการเครียดตามที่พี่ของผู้ตายบอก และได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยาว โดยผู้ตายอมปากกระบอกปืนไว้ และใช้ปลายนิ้วเท้าลั่นไกปืน เข้าศีรษะตัวเองเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเบื้องตนนำได้นำผู้ตายส่งโรงพยาบาลบ้านไร่ เพื่อทำการชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง
ที่มา https://www.khaosod.co.th