วันที่ 22 ก.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก คุณ Nuni Somsai ได้โพสต์ ข้อความระบุว่า “น้องสาวหายไปค่ะ ช่วยหาน้องให้ด้วยค่า ใครติดต่อน้องได้หรือมีเบาะแสอะไรรบกวนแจ้งด้วยนะคะ น้องไปเรียนบริบาลที่กรุงเทพค่า ช่วงนี้ฝึกงานใกล้จบแล้ว ติดต่อน้องไม่ได้มาหลายวันแล้วค่ะ พ่อแม่และครอบครัวกำลังดำเนินการเรื่องแจ้งความคนหายเนื่องจากโทรศัพท์ไปก็ไม่ติด เฟสบุ๊ก ไลน์ก็ติดต่อไม่ได้ ไม่ได้ไปฝึกงานหลายวันแล้ว และที่สำคัญคือมีความผิดปกติก่อนน้องจะหายไปค่ะ ทุกคนที่บ้านเปนห่วงมาก”
น.ส.พรรณิษา ทาอาจ ผู้โพสต์และเป็นญาติกับคนหายเปิดเผยกับ “ข่าวสด” ว่า คนหายชื่อ น.ส.จีราพร แก้วประภา หรือ โบว์ อายุ 19 ปี ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดลำปาง เพิ่งเข้ามาเรียนเป็นผู้ช่วยพยาบาลที่กรุงเทพฯ พักอาศัยที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่าน ถ.เพชรบุรี เขตราชเทวี ร่วมกับเพื่อนประมาณ 3-4 คน อีกทั้งกำลังฝึกงานที่คลีนิกแห่งหนึ่ง โดยน้องโบว์ได้หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนที่จะหายตัวนั้น น้องโบว์ได้บอกกับเพื่อนว่าจะไปกินหมูกระทะ จากนั้นทางเพื่อนและครอบครัวก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
น.ส.พรรณิษา กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุมีเรื่องที่ครอบครัวรู้สึกผิดปกติ เนื่องจากช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา น้องโบว์ได้โทรหาครอบครัวที่ จ.ลำปางว่าทำอุปกรณ์ทางการแพทย์เสียหาย ต้องชดใช้เป็นจำนวนเงินกว่า 4 หมื่น ให้ครอบครัวโอนเงินไปให้ เพื่อจะได้ใบประกาศจบการฝึกงานในสิ้นเดือน ก.ค. นี้ ซึ่งน้องโบว์ให้ทางครอบครัวคุยกับผู้ชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นผู้อำนวยการว่าน้องโบว์ได้อุปกรณ์เสียหาย แต่ภายหลังจากที่หายตัวนั้น ญาติได้สอบถามไปยังสถาบันกับคลีนิกที่ฝึกงาน ปรากฏว่าน้องโบว์ไม่เคยทำอุปกรณ์ทางการแพทย์เสียหายแต่อย่างใด จึงได้ตรวจสอบเลขที่บัญชีพบว่าเป็นชื่อของผู้หญิงที่ภูมิลำเนาอยู่ จ.น่าน
ญาติผู้สูญหายกล่าวอีกว่า เพื่อนน้องโบว์เปิดเผยให้ทางครอบครัวทราบว่าช่วงระยะหลังน้องโบว์จะชอบเล่นแชท และมักจะมีผู้ชายขี่รถจักรยานยนต์ ช็อปเปอร์ สีดำ มารับไปเที่ยวอยู่บ่อยๆ แต่น้องโบว์ไม่เคยเล่าให้เพื่อนฟังว่าชายคนดังกล่าวเป็นใคร แต่วันที่หายตัวนั้นเพื่อนสังเกตว่าน้องโบว์มีแค่กระเป๋าที่ใช้เป็นประจำ ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้าลักษณะย้ายไปอยู่ที่อื่น ขณะนี้ ทางครอบครัวได้แจ้งความแล้วที่ สน.พญาไท และสถาบันที่น้องโบว์ศึกษาก็กำลังช่วยกันหาตัว
“ปกติแล้วน้องโบว์เป็นเด็กเรียบร้อย ไม่เคยขอเงินพ่อแม่จำนวนมาก ตอนอยู่ที่ลำปาง แม้จะเรียนอยู่ก็ขายของ ช่วยพ่อแม่ทำมาหากิน อีกทั้งไม่เคยมีพฤติกรรมที่หายตัวไประยะเวลานานหรือติดต่อไม่ได้เช่นนี้ ตอนนี้ทางครอบครัวรู้สึกกังวลใจอย่างมาก”
ที่มา https://www.khaosod.co.th