วันที่ 12 ก.ค. ร.ต.อ.สัมภาษณ์ ผลถาวร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุรถชนกัน 3 คันที่ถนนทุ่งใหญ่-หลักช้าง ม.4 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถยนต์ 2 คัน รถจยย.อีก 1 คัน อยู่ในสภาพพังเสียหาย
ที่เกิดเหตุมีรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีเทา ทะเบียน ก-0630 พังงา รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีแดง ทะเบียน ฒศ-5905 กรุเทพมหานคร และรถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า สีฟ้า ทะเบียน 1กถ-3771 นครราชสีมา อยู่ในสภาพพังเสียหายอย่างยับเยิน ในรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ดมีคนเจ็บ 3 พ่อแม่ลูก คือนายกิตติ แก้วสารทอง อายุ 46 ปี นายพงศ์กร แก้วสารทอง อายุ 18 ปี บุตรชาย และนางศิริเพ็ญ แก้วสารทอง อายุ 41 ปี
ภายในรถยนต์กระบะอีซูซุพบคนเจ็บ 4 ราย คือนายสุรเดช เดชารัตน์ อายุ 37 ปี เป็นคนขับ น.ส.สุดารัตน์ ทิพยโสธร อายุ 27 ปี เด็กชาย อายุ 7 ปี และเด็กหญิง 2 ขวบ ซึ่งน.ส.สุดารัตน์ และ เด็กชายอายุ 7 ปี อาการสาหัสมาก ถูกส่งต่อไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธีรรมราช แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้เสียชีวิตชีวิตระหว่างทางทั้งคู่ ส่วน นายสุรเดช และลูกสาวเป็นเด็กหญิง 2 ขวบ พ้นขีดอันตรายแล้ว
ส่วนผู้ขับขี่รถจยย.คือนายธนกร (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ถูกส่งตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ.ทุ่งใหญ่ และพ้นขีดอันตรายแล้ว สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าถนนสายดังกล่าวมักจะมีอุบัติเหตุเป็นประจำ จนเป็นที่ขนานนามว่าเป็นถนนสายมรณะ ซึ่งหากฝนตกลงเมื่อไรจะเกิดอุบัติเหตุตลอด จนกระทั่งในวันนี้มีฝนตกลงมาและได้เกิดเหตุอุบัติเหตุรถชนกันถึง 3 คันซ้อนจนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
สำหรับถนนสายดังกล่าวนั้นมีระยะทาง 15 กม. ซึ่งเคยมีชาวบ้านในพื้นที่ได้ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบขยายถนนให้กว้างกว่าเดิม เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง จ.นครศรีธรรมราช และฝั่งอันดามัน ถือเป็นเส้นทางท่องเที่ยว
ที่มา https://www.khaosod.co.th