โจรใจบาปบุกขโมยรูปไม้แกะสลัก “เจ้าพ่อเกาะเรียน” หรือ “เจ้าพ่อมะขามเฒ่า” กับรูปไม้แกะสลักคล้ายเจ้าแม่กวนอิมไปจากศาลเจ้ากลางชุมชนเกาะเรียน เหลือไว้แต่เจ้าแม่ขันทองเพียงองค์เดียว เผยเป็นรูปไม้แกะสลักในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ชาวบ้านนับร้อยรุมสาปแช่ง นายก อบต.เกาะเรียน ตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท
คนร้ายบุกฉกรูปไม้แกะสลัก “เจ้าพ่อเกาะเรียน” สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านไปจากศาลเจ้ากลางชุมชนรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 17 พ.ค.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่เกาะเรียน ตั้งอยู่ในชุมชนเกาะเรียน หมู่ 2 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา หลังรับแจ้งจากนายอนุ พุ่มวิเศษ อายุ 55 ปี กำนัน ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา ว่ามีชาวบ้านมารวมตัวกันเพื่อรุมสาปแช่งคนร้ายที่ขโมยรูปแกะสลักไม้เจ้าพ่อเกาะเรียนไปจากศาล เมื่อเดินทางไปถึงพบศาลเจ้าดังกล่าวลักษณะเป็นศาลไม้ยกพื้นสูงที่เพิ่งบูรณะขึ้นมาใหม่ มีชาวบ้านนับร้อยคนยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรุมสาปแช่งคนร้ายที่ขโมยรูปแกะสลักขอให้ถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลงโทษตกนรกหมกไหม้
ภายในศาลเจ้าพบเครื่องเซ่นไหว้บูชา และมีรูปแกะสลักไม้ “เจ้าแม่เกาะเรียน” หรือ “เจ้าแม่ขันทอง” วางอยู่ เป็นรูปแกะสลักปิดทองในท่านั่ง สูงประมาณ 60 ซม.สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย อายุหลายร้อยปีวางอยู่ ด้านซ้ายและด้านขวาขององค์เจ้าแม่พบเพียงแท่นบูชาว่างเปล่าวางอยู่ 2 แท่น โดยชาวบ้านบอกว่าแท่นขวาของเจ้าแม่เดิมเป็นที่วางรูปแกะสลักของ “เจ้าพ่อเกาะเรียน” หรือ “เจ้าพ่อมะขามเฒ่า” ในท่านั่ง ความสูงเท่ากับองค์เจ้าแม่เกาะเรียน คาดว่าน่าจะสร้างในคราวเดียวกันกับรูปแกะสลักเจ้าแม่เกาะเรียน ส่วนอีกแท่นอยู่ด้านซ้ายขององค์เจ้าแม่เป็นที่วางรูปแกะสลักคล้ายเจ้าแม่กวนอิม โดยรูปแกะสลักทั้ง 2 องค์ทราบว่าถูกคนใจบาปขโมยไป เหลือเพียงแท่นว่างเปล่า
นายยศศักดิ์ พันทวี อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เกาะเรียน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า เมื่อตอนสายวันที่ 15 พ.ค. ได้ขึ้นไปทำความสะอาด กราบไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่เกาะเรียนเหมือนปกติทุกวัน พบว่ารูปแกะสลักเจ้าพ่อเกาะเรียนหรือเจ้าพ่อมะขามเฒ่าและรูปแกะสลักคล้ายเจ้าแม่กวนอิมที่อยู่ขนาบซ้ายขวาของเจ้าแม่เกาะเรียนหรือเจ้าแม่ขันทองหายไป จึงได้ไปแจ้งให้กับกำนันและผู้ใหญ่บ้านทราบ ไม่คิดว่าจะมีคนร้ายมาขโมยไป ในขณะที่นายอนุ พุ่มวิเศษ กำนัน ต.เกาะเรียน เผยว่า เชื่อว่าเป็นฝีมือของคนที่สะสมของเก่าและเคยมาเห็นรูปแกะสลักนี้ จึงได้ออกใบสั่งมาขโมยไป ได้มอบหมายให้นายธีระ จันทร์โอ อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.เกาะเรียน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.จักรพันธ์ ธูปะเตมีย์ สว.(สอบสวน)สภ.พระนครศรีอยุธยา ไว้แล้วเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 พ.ค และตำรวจเดินทางมาเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไปแล้ว นอกจากใบสั่งแล้วยังอาจจะเป็นฝีมือของบรรดาเจ้ามือหวยหรือเซียนหวยที่เคยมาขอโชคลาภ มาขโมยไป อยากให้เอามาคืนก่อนที่จะเกิดความวิบัติกับครอบครัว
นายเล็ก เกาะเรียนอุดม อายุ 83 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.เกาะเรียน เผยว่า ตนเกิดมาก็เห็นรูปแกะสลักเจ้าพ่อเจ้าแม่เกาะเรียนแล้ว ตั้งอยู่ที่ศาลเจ้าเก่าในชุมชนเกาะเรียน กระทั่งมีการบูรณะศาลเจ้าใหม่ไม่นานมานี้ ชาวบ้านก็จะมาทำบุญกันในช่วงวันที่ 19-20 เม.ย.ของทุกปี ไม่คิดว่าจะมีคนชั่วมาขโมยสิ่งที่ชาวบ้านเคารพไป ขอสาปแช่งให้พบแต่ความวิบัติทั้งครอบครัว โดยก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านเห็นรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบทะเบียน มาจอดช่วงเช้าวันอาทิตย์ โดยมีชาย 3 คน มานั่งกินข้าวกันอยู่ใกล้ศาลเจ้า คาดว่าอาจจะเป็นคนร้าย
ด้านนายศักราช อัมวงษ์ นายก อบต.เกาะเรียน เผยว่า ศาลเจ้าเกาะเรียนแห่งนี้สร้างมานานหลายร้อยปี ชาวบ้านทั้งบนเกาะเรียน และชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงต่างนับถือเป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านมาขอมาบนก็มักจะได้ตามที่ขอ ที่ผ่านมามีการบูรณะศาลเจ้ามาหลายครั้ง และยังมีการทำสะพานข้ามไปยังเกาะเรียนด้วย ตั้งแต่มีการสร้างสะพานก็ทำให้ทั้งคนในพื้นที่และคนนอกพื้นที่สามารถขึ้นไปบนเกาะเรียนไปกราบไหว้ที่ศาลเจ้าได้สะดวกขึ้น เรื่องการติดตามตัวคนร้ายจะมอบให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนตัวตนจะมีเงินรางวัลให้กับผู้ที่ชี้เบาะแสคนร้ายจนสามารถนำไปสู่การจับกุมเป็นเงิน 50,000 บาท
ที่มา http://www.thairath.co.th
